นิสสัน ทิด้า ใหม่ (New nissan tiida) เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่งานเซี่ยงไฮ้ ออโต้ โชว์
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ นิสสัน ทิด้า ใหม่ (New nissan tiida) ในงาน เซี่ยงไฮ้ ออโต้ โชว์ ประเทศจีน (Auto Show Shanghai 2011) โดยในประเทศจีนถือว่าเป็นตลาดใหญ่ตลาดหนึ่งของทางนิสสัน และเมื่อปี 2010 ทิด้าเองก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 85,000 คันเลยทีเดียว และสำหรับนิสสัน ทิด้า(nissan tiida)แล้ว ถือว่าเป็นรถรุ่นหนึ่งที่ขายดีของนิสสัน
สำหรับกลุ่มลูกค้าของ ทิด้า ใหม่ (New tiida) นี้ทางนิสสันได้วางเป้าหมายให้เป็นรถสำหรับครอบครัวสมัยใหม่ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบให้ดูดีมีระดับผสมกับความกระฉับกระเฉง ปราดเปรียวให้เข้ากับคนสมัยใหม่ ซึ่งจากรูปร่างหน้าตาที่ออกมา ก็จะให้ความรู้สึกที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น ปราดเปรี่ยวมากขึ้น
สำหรับกลุ่มลูกค้าของ ทิด้า ใหม่ (New tiida) นี้ทางนิสสันได้วางเป้าหมายให้เป็นรถสำหรับครอบครัวสมัยใหม่ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบให้ดูดีมีระดับผสมกับความกระฉับกระเฉง ปราดเปรียวให้เข้ากับคนสมัยใหม่ ซึ่งจากรูปร่างหน้าตาที่ออกมา ก็จะให้ความรู้สึกที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น ปราดเปรี่ยวมากขึ้น
สำหรับเครื่องยนต์ที่วางใน ทิด้า ใหม่ (New tiida) ที่จีนใช้เครื่องยนต์รหัส HR16DE petrol engine ขนาด 1.6 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี “PURE DRIVE” ที่ช่วยรักษาโลกโดยการปล่อยมลพิษในอัตราที่ต่ำ ผนวกกับเกียร์ Xtronic CVT ที่ขึ้นชื่อของนิสสัน
นอกจากเครื่องยนต์ HR16DE 1.6 ลิตร ที่เปิดตัวไปแล้วนี้ ทางนิสสันก็ยังมีแผนที่จะเปิดตัว นิสสัน ทิด้า ใหม่ (New nissan tiida) เครื่องยนต์เทอร์โบ ซึ่งคาดว่าน่าจะวางเครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับ นิสสัน จุ๊ค (Nissan Juke) คือเครื่องยนต์รหัส MR16DDT 190 แรงม้า (ในรูปจะมีคำว่า 1.6 Turbo DIG )
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เชฟโรเลต “มีเรย์” รถสปอร์ตต้นแบบแห่งอนาคต ค่ายจีเอ็ม ดีไซน์ล้ำ
จีเอ็ม เกาหลี เปิดตัว เชฟโรเลต “มีเรย์” (Chevrolet MIRAY Concept) รถสปอร์ตต้นแบบแห่งอนาคต เฉลิมฉลองการรุกตลาดใหม่ด้วยงานดีไซน์อันก้าวล้ำ
โซล – จีเอ็ม เกาหลี แนะนำ เชฟโรเลต มีเรย์ (Chevrolet MIRAY) รถสปอร์ตโรดสเตอร์ต้นแบบที่งานโซล มอเตอร์โชว์ 2011 เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีเชฟโรเลต พร้อมรุกตลาดใหม่ในเกาหลี ด้วยที่สุดแห่งงานออกแบบอันล้ำยุค
“ในภาษาเกาหลี ‘มีเรย์’ (MI RAY) สื่อความหมายถึงอนาคต” มร.ไมค์ อาร์คาโมน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจนเนอรัล มอเตอร์ส เกาหลี กล่าว “ในขณะที่ จีเอ็ม ได้เริ่มแนะนำแบรนด์เชฟโรเลต สู่ตลาดเกาหลี รถต้นแบบอย่างมีเรย์จะนำเสนอแนวทางแห่งอนาคตของแบรนด์ที่จะเชื่อมโยงผู้ขับขี่และตัวรถให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น พร้อมกับการนำเสนอรูปลักษณ์อันสดใหม่ในแบบที่รถสปอร์ตควรจะเป็นในอนาคต”
มีเรย์ ได้รับการพัฒนาโดยแอดวานซ์ ดีไซน์ สตูดิโอ ศูนย์การออกแบบยานยนต์ของจีเอ็ม ในกรุงโซล เป็นการผสมผสานกันของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฮบริด และรูปลักษณ์อันล้ำสมัย ขณะเดียวกัน มีเรย์ยังสร้างความสมดุลระหว่างงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต กับแนวทางของการออกแบบในอนาคต เนื่องในโอกาสที่เชฟโรเลต เฉลิมฉลองครบหนึ่งศตวรรษในปีพ.ศ. 2554 นี้
ภายนอกคลาสสิคล้ำสมัยการออกแบบภายนอกของมีเรย์ ถือเป็นการสานต่อตำนานรถสปอร์ตคลาสสิคของเชฟโรเลต ไม่ว่าจะเป็นตัวถังที่มีขนาดเล็ก เปิดหลังคาเหมือนกับเชฟโรเลต คอร์เวร์ มอนซ่า เอสเอส ปี 1963น้ำหนักเบาและเอื้อต่อการใช้งานอเนกประสงค์เหมือนกับคอร์เวร์ ซูเปอร์ สไปเดอร์ ปี 1962 โดยรูปลักษณ์ภายนอกที่ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้มีเรย์ ดูดุดันคล้ายคลึงกับเครื่องบินรบยุคใหม่
ตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ และคาร์บอนไฟเบอร์เสริมโพลิเมอร์ (CFRP- Carbon Fiber-Reinforced Plastic) ที่มีความแข็งแกร่ง ทนทาน และน้ำหนักเบา การออกแบบด้านข้างทรงลิ่มรับกับเส้นสายสันคม ที่มีเส้นไฟส่องสว่าง ช่วยเพิ่มมิติให้ตัวรถขณะพุ่งทะยานไปข้างหน้า พร้อมกับ สร้างความร้อนแรง บนตัวถังรถอันดุดัน สำหรับประตูเปิดขึ้นแบบปีกนกคล้ายกับรถแข่งเลอมังส์ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้สัมผัสห้องโดยสารอย่างเต็มตา
ด้านหน้ารถตอกย้ำดีเอ็นเอเชฟโรเลต กระจังหน้าสองชั้นเคียงคู่กับไฟหน้าแบบแอลอีดี คู่กับเส้นสายไฟหน้าที่ส่องสว่างในเวลากลางวันซึ่งเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของเชฟโรเลต ซุ้มล้อหน้าและหลังขนาดใหญ่เป็นการสานต่อความสปอร์ตเต็มพิกัดจากเชฟโรเลต คอร์เวทท์ ด้านล่างของกันชนติดตั้งลิ้นสปอยเลอร์คาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยเพิ่มแรงกด และความไหลลื่นของอากาศ
ปีกสปอยเลอร์หลังปรับระดับได้ เพิ่มแรงกดท้ายและช่วยควบคุมการไหลเวียนของอากาศ ซึ่งถูกออกแบบให้มีฝาถังน้ำมัน และช่องชาร์จไฟติดตั้งอยู่ด้านล่างอย่างแนบเนียน โดยช่องชาร์จไฟมีมาตรวัดแสดงความจุแบตเตอรี่อยู่ด้วย ขณะที่ซุ้มล้อหลังทั้งสองด้านมีช่องสำหรับเก็บของขนาดเล็ก คู่กับเส้นสายไฟท้ายแบบทวิน เอลิเมนท์ แสดงตัวตนใหม่ของเชฟโรเลต
มีเรย์ ใช้ล้ออลูมิเนียมผสมคาร์บอนไฟเบอร์ขนาด 20 นิ้วที่ด้านหน้า และ 21 นิ้วที่ด้านหลัง ดีไซน์คล้ายใบพัดเทอร์โบ เสริมให้มีเรย์ ดูปราดเปรียว เหมือนกำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้าตลอดเวลา
หากมองจากด้านบน ห้องโดยสารของมีเรย์ มีลักษณะคล้ายเพชรเม็ดงาม และแสดงให้เห็นถึงแนวทางการออกแบบของเชฟโรเลตอย่างชัดเจน
ภายในสปอร์ตเต็มพิกัด
การออกแบบภายในของมีเรย์ ตอกย้ำตำนานของเชฟโรเลต โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบเหมือนกับการออกแบบภายนอก เป็นการผสมผสานกันระหว่างอลูมิเนียมเงา หนังแท้ แฟบริกสีขาว และวัสดุพื้นผิวโลหะ สะท้อนความเป็นงานประติมากรรมแห่งความเร็วขนานแท้
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ให้โครงสร้างที่เหนียวแน่น และน้ำหนักเบา ดีไซน์แบบทวิน ค็อกพิท โอบกระชับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตามเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต พร้อมกับเชื่อมโยงให้เกิดประสบการณ์แห่งการขับขี่ร่วมกัน
เบาะที่นั่งที่ถูกออกแบบให้ไม่สมมาตรอย่างตั้งใจ ขับเน้นให้ภายในห้องโดยสารเกิดความสมดุลอย่างลงตัว ผู้ขับขี่จึงรู้สึกใกล้ชิดกับตัวรถได้อย่างเต็มที่ ในห้องโดยสารยังมีการติดตั้งแสงไฟทั้งบริเวณด้านบนของแผงคอนโซลและบริเวณเบาะที่นั่งเพิ่มบรรยากาศความหรูหรา เบาะที่นั่งและที่พิงศีรษะใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาและติดตั้งอยู่บนรางอลูมิเนียมแบบรางเดี่ยว โดยที่พิงศีรษะมีช่องเป่าลมให้ความอบอุ่นแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตามสไตล์รถสปอร์ตเปิดประทุน
นักออกแบบของจีเอ็ม สร้างสรรค์แผงคอนโซลและมาตรวัดแบบใหม่ ด้วยการออกแบบให้ข้อมูลต่างๆแสดงขึ้นบนพื้นผิวคอนโซลสีขาว โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ แสดงความเร็วและรอบเครื่องยนต์บริเวณด้านหน้าของผู้ขับขี่ แสดงระยะทางบริเวณแผงคอนโซลด้านซ้าย และนำเสนอเนวิเกเตอร์นำทาง และความเร็วที่คอนโซลด้านขวา ซึ่งการออกแบบเช่นนี้ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่อันน่าตื่นเต้นได้มากกว่าเดิม
แผงคอนโซลกลางระบบสัมผัสตกแต่งเสริมด้วยอลูมิเนียม ถูกออกแบบให้คล้ายคลึงกับคันเกียร์ของเครื่องบินรบขณะกำลังลงจอด ขณะเดียวกัน การออกแบบภายนอกที่มุ่งให้ไหลลื่นลงสู่ภายในห้องโดยสาร ยังทำให้คอนโซลดูมีพลัง และดูลงตัวทั่วทั้งห้องโดยสาร
แผงคอนโซลกลางระบบสัมผัสตกแต่งเสริมด้วยอลูมิเนียม ถูกออกแบบให้คล้ายคลึงกับคันเกียร์ของเครื่องบินรบขณะกำลังลงจอด ขณะเดียวกัน การออกแบบภายนอกที่มุ่งให้ไหลลื่นลงสู่ภายในห้องโดยสาร ยังทำให้คอนโซลดูมีพลัง และดูลงตัวทั่วทั้งห้องโดยสาร
ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่บนคอนโซลกลาง ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบเช่นกัน และเมื่อกดปุ่มสตาร์ท มาตรวัดและข้อมูลทั้งหมดจะปรากฎขึ้นบนแผงคอนโซล เหมือนกับเครื่องบินรบที่พร้อมทะยานขึ้นฟ้า
มีเรย์ ไม่มีกระจกมองหลังและกระจกมองข้าง แต่ถูกแทนที่ด้วยกล้องทั้งด้านหน้าและด้านหลังซึ่งปรับมุมมองด้วยไฟฟ้า ขณะที่การขับขี่ในเมือง กล้องด้านหน้ารถจะทำงานร่วมกับระบบจีพีเอส และจะทำงานแทนที่ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ด้วยภาพวีดีโอจริง
ใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบขับเคลื่อนอันทรงพลังมีเรย์ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าต้นแบบ “มิด-อิเลกทริก” (mid-electric) โดดเด่นที่สมรรถนะและความประหยัด โดยติดตั้งอยู่บริเวณใต้ที่นั่ง เยื้องมาด้านหลังของผู้ขับขี่
“ระบบขับเคลื่อนของมีเรย์ เกิดจากการต่อยอดเทคโนโลยีของจีเอ็ม ที่มีอยู่ในปัจจุบัน” อูเว่ เกรเบ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมระบบขับเคลื่อนอันล้ำหน้าของจีเอ็ม กล่าว “รถต้นแบบคันนี้ แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาโครงสร้างใหม่ การออกแบบสัดส่วนใหม่ และการยกระดับเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนในปัจจุบันให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น”
มีเรย์ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 15 กิโลวัตต์จำนวน 2 ตัว และใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ขนาด 1.6 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งชาร์จไฟขณะเหยียบเบรก ให้อัตราเร่งที่คล่องแคล่ว และปราศจากมลพิษอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน มีเรย์ ยังสามารถเปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลังได้อีกด้วย
เพื่อสมรรถนะที่สูงขึ้น มีเรย์ ยังมีระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบควบคุมแรงบิดที่ล้อหลังซ้ายและล้อหลังขวาได้ตามต้องการ โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังเบาะที่นั่ง ถ่ายกำลังสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหลังและทำงานคู่กับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ที่ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ตลาดรถสปอร์ตโรดสเตอร์
ระบบส่งกำลังพร้อมคลัตช์คู่ (Dual-clutch transmission – DCT) ที่มีขนาดกระทัดรัดเนื่องจากไม่มีทอร์ค คอนเวอเตอร์ ให้ช่วงเปลี่ยนเกียร์ที่สั้นและรวดเร็ว อีกทั้งยังได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มความเร็วสูงสุด และมีระบบการสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ที่ทำงานร่วมกับระบบเกียร์
“ระบบขับเคลื่อน เข้ากับตัวรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ ครบเครื่องทั้งสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และการปล่อยมลพิษที่น้อยมาก” มร.อาร์คาโมน กล่าว “ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน และการออกแบบที่ล้ำสมัย มีเรย์ ได้กำหนดแนวทางในอนาคตของเชฟโรเลตทั่วโลก ที่ประกอบด้วยความโดดเด่น ความสดใหม่ล้ำสมัยและให้ความบันเทิง”
“ระบบขับเคลื่อน เข้ากับตัวรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ ครบเครื่องทั้งสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และการปล่อยมลพิษที่น้อยมาก” มร.อาร์คาโมน กล่าว “ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน และการออกแบบที่ล้ำสมัย มีเรย์ ได้กำหนดแนวทางในอนาคตของเชฟโรเลตทั่วโลก ที่ประกอบด้วยความโดดเด่น ความสดใหม่ล้ำสมัยและให้ความบันเทิง”
ข้อมูลทางเทคนิค
ข้อมูลทางเทคนิค | มีเรย์ | |
ความยาว (มม.) | 3,991 | |
ความสูง (มม.) | 1,100 | |
ความกว้าง (มม.) | 1,865 | |
Wheelbase (mm) | 2,375 | |
ตัวถัง และแชสซีส์ | คาร์บอนไฟเบอร์ และคาร์บอนไฟเบอร์ผสมโพลีเมอร์ และแชสซีส์อลูมิเนียม | |
ล้อและยาง | ด้านหน้า | 245/35/20 20”/8.5J |
ด้านหลัง | 295/30/21 21”/10.5J | |
ระบบขับเคลื่อน | เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 15 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่ 1.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง | |
ระบบกันสะเทือน | ปีกนกคู่ ด้านหน้าและด้านหลัง | |
เบรก | ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบระบายความร้อน | |
อัตราความประหยัดเชื้อเพลิง | ในเมือง 60 ไมล์ต่อแกลลอนทางหลวงไฮเวย์ 63 ไมล์ต่อแกลลอน |
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------