9วิธีดูแลรถให้ดูดีเสมอ
1ปฏิบัติตามคู่มือการใช้รถยนต์ที่ให้มาตอนซื้อรถ ถ้ามีตารางการซ่อมบำรุงก็ใช้เป็นแนวทางในการตรวจเช็ครถ แต่ควรตรวจเช็คในคู่มืออีกทีว่าถึงเวลาเปลี่ยนอะไหล่เมื่อไหร่
2อย่าลืมเปลี่ยนสายพานเมื่อรถวิ่งได้ทุกๆ 60,000 – 90,000 ไมล์ การเปลี่ยนสายพานราคาอาจจะสูงสักหน่อย แต่ก็ถูกกว่าค่าเสียที่เกิดขึ้นหากสายพานขาด
3หยอดกระปุกไว้สำหรับการซ่อมบำรุงรถ เพราะในแต่ละปีคุณควรจะมีงบในการบำรุงรักษารถ 5,000 – 20,000 บาท แล้วแต่อายุการใช้งาน ถ้ามีการสะสมงบเอาไว้ล่วงหน้าเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นกับรถก็จะไม่กระทบกับการเงินของคุณ
4หาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นที่คุณใช้ รถทุกรุ่นมักจะมีเว็บไซต์ของตัวเอง บอกข้อมูล และปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นเวลาใช้ คุณจะได้มีความพร้อมที่รับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถของคุณ
5เวลาขับขี่คอยสังเกตว่ามีเสียง หรือกลิ่นที่ผิดไปจากปกติเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามีควรปรึกษาช่างเพื่อหาสาเหตุ คุณผู้ใช้รถเป็นประจำเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุดเมื่อรถเกิดอาการผิดปกติ
6เมื่อเกิดความเสียหายกับรถให้ซ่อมทันที แม้ว่าจะเป็นความเสียหายเล็กน้อย อาทิ เบาะที่นั่งขาด หรือสายไฟหลุด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น หรือสร้างความรำคาญให้กับคุณเอง
7ใช้อะไหล่ที่มีคุณภาพ หากมีงบประมาณจำกัดไม่สามารถซื้ออะไหล่แท้ควรปรึกษาช่างเพื่อหาทางเลือก การซื้ออะไหล่แท้มือสองก็เป็นอีกทางที่จะได้ของคุณภาพในราคาย่อมเยา
8ทำความสะอาดรถอย่างสม่ำเสมอ สีรถนอกจากจะช่วยให้รถดูดี ยังเป็นการปกป้องวัสดุข้างในด้วย ควรล้างรถเป็นประจำ ถ้าน้ำเริ่มไม่เกาะเป็นหยดๆ บนสีรถ ให้ลงแว็กเคลือบสี
9ควรขับรถอย่างนิ่มนวล แม้ว่าการขับรถด้วยความเร็วสูงบ้างในบางครั้งจะช่วยให้เครื่องยนต์มีความคล่องตัว แต่ไม่ควรเหยียบคันเร่งจนมิด หรือขับรถโดยใช้ความเร็วสูงตลอดเพราะไม่เป็นผลดีต่อเครื่องยนต์
เพียงเท่านี้คุณก็ยิ้มได้อย่างภูมิใจเมื่อมีคนพูดอย่างชื่นชมว่ารถคุณยังดูใหม่แม้ว่าจะวิ่งได้ 150,000 ไมล์ แล้ว.....
----------------------------------------------------------------------------------------------
12 วิธีการประหยัดน้ำมันแบบง่าย ๆ
ขั้นตอนการประหยัด | ผลที่จะได้รับ |
1. เติมน้ำมันหลัง 4 ทุ่ม หรือก่อน 9 โมงเช้าเสมอ | อุณหภูมิที่เย็นน้ำมันหดตัวได้ปริมาตรมากขึ้น 2% |
2. เติมน้ำมันแค่หัวจ่ายตัดพอแล้ว | ถ้าเติมจนเต็มปรี่ ร้อนๆน้ำมันจะขยายตัวระเหยทิ้งที่รูระบาย |
3. อุ่นเครื่อง 1 นาทีในหน้าร้อนและ 3 นาทีในหน้าหนาว | เครื่องจะได้ไม่ใช้กำลังฉุดมากและการหล่อลื่นจะสมบูรณ์ขึ้น |
4. ค่อยๆออกตัวเมื่อรถจอดนิ่ง 1-2 พันรอบ | ได้ความนิ่มนวล ประหยัด และลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ |
5. ควรใช้เกียร์สูงเมื่อรถวิ่งได้ 2500 รอบขึ้นไป | การลากเกียร์จะทำให้ชดเกียร์ทำงานจนอายุการใช้งานสั้น |
6. เครื่อง 2.0 ลิตรขึ้นไปความเร็วคงที่ที่ทำให้ประหยัด 110 กม./ชม. | รักษาสเถียรภาพความเร็วทำให้กินน้ำมันน้อยที่สุดขณะรถวิ่ง |
7. เครื่อง 1.6 ลิตรขึ้นไปความเร็วคงที่ที่ทำให้ประหยัด 90 กม./ชม. | รักษาสเถียรภาพความเร็วทำให้กินน้ำมันน้อยที่สุดขณะรถวิ่ง |
8. พักรถสัก 15 นาทีเมื่อขับเกิน 4 ชม.เพื่อให้ลดความร้อน | ให้น้ำมันในระบบคลายความร้อนกลับมามีคุณสมบัติที่ดีอีกครั้ง |
9. เกียร์ถอยกินน้ำมันมากสุด ควรค่อยๆถอยไม่ต้องรีบ | เกียร์ถอยใช้อัตราทดและแรงฉุดมากกว่าทุกเกียร์ |
10. ก่อนถึงปลายทางสัก 500 เมตรให้ปิด COM แอร์ลดภาระเครื่อง | เป่าลมไล่ความชื้นในตู้แอร์และไล่เชื้อราที่อยู่ในนั้นด้วย |
11. เช็คลมยางให้สม่ำเสมอทุกๆ 2 อาทิตย์และเมื่อจะออกเดินทางไปต่างจังหวัด | ลมยางอ่อนวิ่งได้ช้า ขอบยางสึกมากอายุการใช้งานสั้น |
12. พยายามอย่าใส่ของไว้ในรถเยอะ | เพิ่มน้ำหนักรถทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้น 20 % ตามระยะทาง |
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
| |||||
| |||||
![]() | |||||
| |||||
| |||||
3. ยาง | |||||
การสึกหรอของดอกยางแบบต่าง ๆ บอกเราได้ว่ายางผิดปกติไปอย่างไร | |||||
| |||||
| |||||
| |||||
| |||||
| |||||
| |||||
| |||||
![]() | |||||
| |||||
| |||||
| |||||
------------------------------------------------------------------------------------------------------ การคำนวนขนาดยางรถยนต์ ![]() การคำนวนเรื่องขนาดยาง มีคำถาม บ่อยครั้ง ที่ท่านเจ้าของ รถยนต์ อยากที่จะเปลี่ยนล้อให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งในการเปลี่ยนล้อ สิ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือ ขนาดของยาง จะใช้ขนาดไหนดี ? อันนี้เราขอแนะนำให้พยายามเลือก ขนาดยางใหม่ ให้มีความสูง หรือ จะเรียกแบบเป็นทางการว่า เส้นผ่าศูนย์กลาง ให้มีขนาดหลังเปลี่ยนแล้ว ใกล้เคียงของเดิม ( Standard ) มากที่สุด เพราะจะได้ไม่เกิดผลข้างเคียง เช่น วิ่งไม่ออก , กินน้ำมัน , ติดซุ้ม , ติดโช๊ค เป็นต้น ดังนั้น เราลองมาหาขนาด ยางใหม่ โดยใช้วิธีการคำนวนง่ายๆ แต่ทั้งนี้ เราต้องหาตัวเลขที่ยาง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลด้วยนะครับ ลองดูตามนี้ได้เลยครับ... สูตรคำนวน D = ( W x S% x 2 ) + d D = ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของยาง (หน่วยเป็น มม. ) W = ความกว้างของยาง S = ซีรี่ย์ยาง คิดเป็น % แต่ต้อง คูณ 2 เพราะต้องคิดทั้ง 2 ข้าง บนและล่าง d = เส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ ตัวอย่างที่ 1 ขนาดยาง 195 / 55 / R15 W = 195 S = 55% ของ 195 ( 195 x 55% ) x 2 ได้ผลลัพธ์ เท่ากับ 214.5 มม. d = 15 นิ้ว ( ทำเป็น มม. จะได้ 15 x 25.4 ได้ผลลัพธ์ เท่ากับ 381 มม. ) ดังนั้น ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลาง ได้เท่ากับ 214.5 + 381 = 595.5 มม. ตัวอย่างที่ 2 ขนาดยาง 205 / 45 / R16 W = 205 S = 45% ของ 205 ( 205 x 45% ) x 2 ได้ผลลัพธ์ เท่ากับ 184.5 มม. d = 16 นิ้ว ( ทำเป็น มม. จะได้ 16 x 25.4 ได้ผลลัพธ์ เท่ากับ 406.4 มม. ) ดังนั้น ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลาง ได้เท่ากับ 184.5 + 406.4 = 590.9 มม. ดังนั้น หากท่านใดที่จะเปลี่ยนขนาดล้อและยาง ก็ต้องคำนวน ขนาดความสูงออกมาให้ใกล้เคียงกับขนาดยางเดิม มากที่สุด ถึงจะไม่มีผลข้างเคียงต่อการขับขี่ ---------------------------------------------------------------------------------------- |